เป็นธรรมดาตามธรรมเนียมของฝรั่งอยู่แล้ว ที่เวลาเจอกันหรือแยกย้ายกันกลับบ้าน ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายเราอาจจะกอดหรือจับมือ shake hands กันตามธรรมดา แต่ถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงเราจะ kiss กันตรงแก้ม ซึ่งที่ออสเตรเลียก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เราทำกันจนชิน ไม่มีเขินอาย
ที่โรงเรียนก็เหมือนกัน เด็กๆนักเรียน เพื่อนๆที่สนิทกัน ไม่ว่าเพศเดียวกันหรือต่างเพศ เรื่องกอดกันแบบ "เพื่อนๆ" หรือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะบางทีเพื่อนก็กอดกันให้กำลังใจกัน หรือทักทายกันตามมารยาทและวัฒนธรรมของฝรั่ง ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
แต่เด็กๆนักเรียนที่เป็นแฟนกันนี่สิ ลักษณะการกอดการเคล้าเคลียกันจะแตกต่างไปจากความเป็นเพื่อนทั่วๆไป โดยเฉพาะช่วงพัก break และช่วงพักเที่ยง เราเป็นครูเป็นอาจารย์หูตาก็ต้องว่องไว เพราะถ้าเห็นเด็กคู่ใหนที่เคล้าเคลียกันเกินความเป็นเพื่อนเราก็ต้องเดินไปแยกเด็กออก ปกติเราก็จะบอกให้เด็กห่างกันประมาณ 30 ซ.ม. ซึ่งฟังดูมันก็ขำๆดีนะ แต่ปกติแล้วเด็กนักเรียนจะรู้ว่าเค๊าจะกอดกันเคล้าเคลียกันเกินความเป็นเพื่อนไม่ได้อยู่แล้ว เราก็คอยบอกเด็กๆนักเรียนเสมอว่าถ้าตราบใดที่ยังอยู่ในเครื่องแบบนักเรียนก็จะเคล้าเคลียนัวเนียกันไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ข้างนอกโรงเรียนและไม่อยู่ในเครื่องแบบนักเรียน อยากจะทำอะไรก็ทำได้เลย เพราะสังคมที่นี่อิสระกันอยู่แล้ว เรื่องกอดๆจูบๆเหรอ เรื่องปกติมากเลย แต่ถ้าทำอะไรกันอยู่ในโรงเรียน อยู่ในเครื่องแบบมันก็น่าเกลียด ครูอาจารย์ก็ต้องคอยสอดส่องดูแล
เด็กๆนักเรียนจะรู้กันอยู่แล้วว่า การจูบแก้มกันถือเป็นเรื่องปกติของวัฒนธรรมและธรรมเนียมฝรั่ง แต่จูบกันแบบคู่รัก แบบ lip to lip ไม่ได้
แต่ก็อย่างว่าแหละ เด็กๆนักเรียนที่เป็นแฟนกัน ก็มีแอบทำกันบ้าง เราเป็นครู ถ้าเราเห็นเราก็คอยห้ามปลามกันอยู่ตลอด แต่เด็กๆก็จะประมาณว่าตื่นเต้นได้แอบฝ่าฝืนกฏอะไรประมาณนี้ เพราะเด็กๆนักเรียนมัธยมอยู่ในช่วงที่อยากรู้อยากเห็น เด็กๆนักเรียนอยากลองนั่นลองนี่ไปหมด และการคบกันกับใครสักคนเป็นแฟนก็ถือว่าเป็นการ experiment อะไรอีกอย่างเช่นเดียวกัน
ช่วงนี้เราก็เห็นเด็กๆนักเรียนเริ่มโตเป็นหนุ่มสาวกัน นักเรียนบางคนเราก็เห็นตั้งแต่เป็นเด็กๆตัวกระจิ๋วตอน ม.2 ตอนนี้อยู่ ม.4 อ้าว มีความรักกันสะละ เราคงแก่แล้วสินะถ้างั้นก็...
ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ อาจจะเป็นฤดูใบไม้ผลิหรือเปล่าเนี๊ยะ ฤดูดอกไม้บาน เด็กๆมีความรักกันไปหมด ครูเผลอเมื่อไหร่นะก็พากัน kiss kiss จูจุ๊บ กันไปหมด คือเด็กๆนักเรียนจะชอบ"ลักไก่"กันว่างั้นเถอะ ทำกันตอนครูเผลอ มันคงจะตื่นเต้นหละนะ
อะ... ไม่ว่ากัน เอาแค่พอดีพองาม อย่าให้มากเลยเถิด
ที่โรงเรียนก็จะมีเด็กๆนักเรียนอยู่หลายคู่ที่พยายามลักไก่แบบนี้ แต่เด็กๆนักเรียนจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเค๊าไม่ควรทำอะไรแบบนี้ kiss kiss จูจุ๊บ กันที่โรงเรียน ส่วนมากเวลาเราบอกเด็กๆนักเรียน เด็กๆนักเรียนก็จะชอบว่า "อาจารย์ค่ะ อย่าพูดต่อหน้าเพื่อนๆหนูสิ เดี๋ยวเพื่อนๆล้อแน่เลย" ไอ้เราก็ขำกลิ้ง นึกในใจว่าอะไรของพวกเธอเนี๊ยะ kiss kiss จูจุ๊บ ต่อหน้าเพื่อนๆหนะไม่อายหลอกนะ แต่พอครูเข้าไปบอก ทำเป็นอาย กลัวเพื่อนล้อ มีแปบนี้ด้วย
จะยังไงเสียเราก็คิดว่าครูที่เมืองไทยคงได้เจออะไรแบบนี้น้อย แบบ kiss kiss จูจุ๊บ กัน อะไรปรมาณนี้ เพราะคิดว่าจะยังไงเสียเด็กนักเรียนไทยที่เมืองไทย ถ้าคิดจะ kiss kiss จูจุ๊บ กันจริงๆก็คงจะแอบทำ หรือทำกันนอกโรงเรียน ไม่ได้ใจกล้าแบบเด็กนักเรียนฝรั่งที่นี่...
ในความรู้สึกส่วนตัวแล้วการที่เด็กๆนักเรียน kiss kiss จูจุ๊บ กันแบบ lip to lip ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไร เพราะไม่ได้เป็นการจูบกันแบบ ลิ้นแลกลิ้น จูบกันแบบดูดดื่ม ถ้าจูบแบบนั้นมันแบบว่าจูบเพื่อที่จะมีอะไรกันแล้วหละ แบบนั้นหนะ รับไม่ได้แน่นอน เท่าที่ผ่านมาก็ยังไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ และก็ขอให้เป็นแบบนั้นตลอดไปนะครับ
Note: รูปภาพทุกรูปที่ใช้ใน blog นี้ เป็น free images ไม่มี copyright นะครับ จาก Freeimages.com
No comments:
Post a Comment