Pages

Sunday, November 8, 2015

ครู นักเรียน และ social media


วันนี้เลือกที่จะเขียน blog เรื่อง "ครู นักเรียน และ Social Media" เพราะว่าเราเห็นเพื่อนที่เป็นอาจารย์ที่ประเทศสิงคโปร์สอนเด็กประถมและมัธยมและมีเด็กๆนักเรียนที่เป็นลูกศิษย์เต็ม social media ของเธอไปหมดเลย เราก็ได้แอบคิดในใจว่าเพื่อนเราคิดถูกหรือคิดผิดเนี๊ยะที่ให้ลูกศิษย์เข้ามาวุ่นวายเรื่องส่วนตัว เรื่องชีวิตประจำวัน เรื่องครอบครัวของเราคนที่เป็นอาจารย์ เพราะเค๊า post อะไรลงไปใน social media เด็กๆนักเรียนก็เห็นกันหมด ความเป็นส่วนตัวหายไปใหน!! แล้วกฎหมายหรือกฎระเบียบการศึกษาที่สิงคโปร์มันเป็นยังไงเหรอ เราไม่เข้าใจ 

Note: เราเคยทำงานที่สิงคโปร์มาก่อน เป็น programmer อยู่ที่นั่น 4 ปี ก็เลยมีเพื่อนๆที่สิงคโปร์เยอะ

เราเข้าใจว่าแต่ละประเทศ กฎหมายและกฎระเบียบการศึกษาไม่เหมือนกัน ที่ออสเตรเลีย อาจารย์ทุกคนจะถูกห้ามที่จะมีเด็กๆนักเรียนลูกศิษย์มาเป็นเพื่อนใน facebook หรือโลกสังคม online, social media ของคนครู สาเหตุก็เพราะคนที่เป็นอาจารย์เราต้องแยกสังคมส่วนตัวและการงานให้ออก จะเอามาปะปนกันไม่ได้

เป็นเรื่องปกติของนักเรียนส่วนมาก โดยเฉพาะเด็กนักเรียนมัธยมที่กำลังเป็นนวัยรุ่น กำลังเริ่มสนุก กำลังเริ่มใช้ social media ใหม่ๆ อาจจะไม่ค่อยเข้าใจหลักที่ควรหรือไม่ควรว่าจะใช้ social media ให้เกิดประโยชน์อะไร ยังไงบ้าง อย่าว่าแต่เด็กนักเรียนเลย ผู้ใหญ่เราเองก็เถอะ หลายๆคนควรเรียนรู้หลักการบฏิบัติในการใช้ social media, หรือภาษาทางวิชาการเราเรียกว่า netiquette เอาไว้บ้างก็ดี อันใหนควร อันใหนไม่ควร

เด็กนักเรียนมัธยมส่วนใหญ่จะส่ง request มาขอเป็นเพื่อน หรือ add เข้ามาใน social media, คนที่เป็นอาจารย์ที่ออสเตรเลียจะต้องไม่รับเด็กนักเรียนเข้ามาใน social media ส่วนตัวของตัวเอง 

ยกเว้น Facebook page หรือ Twitter account ที่เป็น social media ทางการของทางโรงเรียน มีเอาไว้เพื่อประชาสัมพันธ์งานต่างๆให้กับนักเรียนและสังคมส่วนรวม อันนี้ถือว่า OK เพราะไม่ใช้ social media ส่วนตัว

สาเหตุที่กระทรวงการศึกษาของรัฐ NSW มีการห้ามอาจารย์ติดต่อกับเด็กนักเรียนผ่าน social media ส่วนตัว ก็เพราะว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆที่อาจารย์มีลูกศิษย์อยู่ใน social media ส่วนตัวของตัวเองแล้วถูกพักการสอน สาเหตุก็เนื่องด้วยมีอยู่วันหนึ่งอาจารย์ตรวจข้อสอบวิชาเคมี แล้วเด็กนักเรียนได้คะแนนน้อยกันมาก อารจารย์ก็เผลอไป update status ใน social media ส่วนตัวว่า เด็กนักเรียนพวกนี้ "โง่" จัง อะไรประมาณนี้ และเด็กนักเรียนก็ได้ทำการร้องเรียนไปที่ ผ.อ.

สรุปอาจารย์ที่สอนเคมีคนนั้นก็ถูกหยุดพักการสอน และก็เป็นข่าวออกหนังสือพิมพ์กันใหญ่โต อาจารย์คนนี้สอนอยู่ที่ Melbourne, อีกรัฐหนึ่งนะครับ

ปกติที่ออสเตรเลีย เราเป็นอาจารย์ เราจะพูดอะไร เราก็ต้องระวังปาก เราจะไม่เอาแต่จะพูด เราจะต้องคิดก่อนพูดเสมอ แล้วคำบางคำเราก็พูดไม่ได้ อย่างเช่นคำว่า "โง่" เป็นต้น แล้วถ้าไป update status ตัวเองใน social media แล้วมีนักเรียนอยู่ในนั้นอ่านเจอ รับรองได้เลยว่ากลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน

หลายๆคนอาจจะอยากรู้ทำไมอาจารย์ที่ออสเตรเลียเรียกเด็กนักเรียนว่า "โง่" ไม่ได้ เราเรียกเด็กนักเรียนว่า "โง่" ไม่ได้ครับ เราต้องบอกว่าเด็กนักเรียนคนนั้น "ด้อยความสามารถ" คือประมาณว่านักเรียนได้พยายามแล้ว แต่เค๊าทำได้แค่นี้จริงๆ

นอกจากการที่เราจะต้องระวังในเรื่องของ social media แล้ว เราก็คิดว่ามันเป็นการไม่เหมาะสมที่นักเรียนต้องมารู้เห็นเรื่องส่วนตัวของเรา โดยเฉพาะสังคมที่ออสเตรเลีย เราจะให้ความสำคัญเรื่องของ privacy หรือความเป็นส่วนตัวกันมาก

แต่หลายคนอาจคิดว่า ไม่เป็นไร เพราะอาจจะสนิทกับเด็กนักเรียนบางคนเป็นพิเศษ 

ความสนิทกับเด็กนักเรียนนี่แหละยิ่งต้องระวังกันใหญ่เลย ยังไงเสียความสนิทมันก็ต้องมีขอบเขต เราบอกกับเด็กนักเรียนในห้องเสมอ โดยเฉพาะเด็ก senior class ที่เค๊าคิดว่าเค๊าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถเป็นเพื่อนเราได้ เราย้ำกับเด็กเสมอว่า เราเป็นอาจารย์ก็ต้องเป็นอาจารย์ สนิทกับเด็กนักเรียนได้ เพราะเด็กนักเรียน senior class ส่วนมากก็โตๆกันหมดแล้ว นิสัยดี ตั้งใจเรียน ไม่ได้ไร้สาระอะไรมากมาย แต่เราก็ย้ำกับเด็กนักเรียนว่า สนิทได้แต่เป็นเพื่อนไม่ได้

เราไม่รู้นะว่าหลักการปฏิบัติของแต่ละประเทศเป็นยังไง แต่คนที่เป็นอาจารย์หรือครูก็ต้องมี common sense เพราะมันไม่ใช่เรื่อง ที่เด็กนักเรียนจะพูดจาเล่นหัวหรือแซวอะไรเราใน social media เพราะเราไม่ใช่เพื่อนเล่นเค๊า

ทุกอย่างต้องมีขอบเขต มี boundary...

No comments:

Post a Comment