Pages

Sunday, January 31, 2016

ครูอาจารย์ในชนบท ที่ขาดแคลน


เราคิดว่าไม่ว่าประเทศใหนๆ ตำแหน่งอาจารย์สอนที่อยู่ในชนบทก็เป็นตำแหน่งที่ยังขาดแคลน เพราะครูอาจารย์หลายๆคนก็เลือกที่สอน หรือทำงานกันในสังคมเมือง เพราะความสะดวกสบายและสิ่งเอื้ออำนวยความสะดวกอะไรต่างๆ 

ที่ประเทศออสเตรเลียเอง อาจารย์สอน หรือ classroom teacher จะชอบมากระจุกกันตามหัวเมืองใหญ่ๆ คนทำงานจะชอบอยู่ในตัวเมืองที่ติดกับทะเล เพราะฝรั่งที่นี่ชอบบรรยากาศและการใช้ชีวิตติดทะเล เพราะหลังเลิกโรงเรียนหรือเสาร์-อาทิตย์ พวกเขาก็จะได้มีเวลาพักผ่อน ไปเดินเล่นตามทะเล ดังนั้นเมืองที่ติดกับทะเลจะหาอาจารย์สอนหนังสือได้ง่ายกว่าเมืองตามแถบชนบท

เมืองที่เราอยู่ ก็อยู่ติดกับทะเล ดังนั้นจึงมีอาจารย์สอนเยอะแยะมากมายในเมืองนี้ โรงเรียนรัฐบาลต่างๆจะไม่ค่อยมีปัญหาการขาดแคลนบุคลากรกันเท่าไหร่ โรงเรียนจะไม่มีตำแหน่งว่างให้อาจารย์ลงสะมากกว่า เพราะคนที่ได้ตำแหน่งสอนในโรงเรียนที่อยู่รอบๆเมืองที่ติดกับทะเลก็จะไม่ยอมลาออกหรือย้ายกันง่ายๆ ส่วนมากก็จะอยู่สอนกันจดเกษียณไปเลย

เราก็เลยเลือกที่จะต้องขับรถทุกวัน เพื่ออกไปสอนตามโรงเรียนรอบนอก ซึ่งจะเป็นอะไรที่แตกต่างจากโรงเรียนที่ติดทะเล เพราะโรงเรียนรอบนอก เวลาที่เราขาดสอน หรือลาป่วย จะเป็นอะไรที่ยากมากที่โรงเรียนจะสามารถหาใครมาสอนแทนเราในวันนั้น เพราะอาจารย์พิเศษ หรือ casual teacher เป็นอะไรที่หายากมาก

หลายๆคนคิดว่า เมืองนอก ประเทศตะวันตก จะไม่มีปัญหาอะไรแบบนี้ 

มี ครับ มี ประเทศตะวันตก หรือฝรั่ง ทุกประเทศก็จะมีปัญหาของเขาเอง แตกต่างกันออกไป เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบไปหมดสะทุกอย่าง โรงเรียนรอบนอกก็ยังเป็นอะไรที่เสียเปรียบในเรื่องของบุคลากร เมื่อเปรียบเทียบกัยโรงเรียนที่อยู่ในเมือง หรือโรงเรียนที่ติดกับทะเล.... เป็นต้น

Tuesday, January 12, 2016

เงินเดือนขึ้นทุกวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี


เป็นอาจารย์สอนนักเรียนประถมหรือมัธยมที่ NSW วันที่ 1 มกรคม ของทุกๆปี อาจารย์ทุกคนที่ NSW ก็จะมีการปรับอัตราการว่าจ้าง ขึ้นค่าแรงโดยอัตโนมัติ 2.5% ซึ่งก็เป็นอะไรที่ดี เป็นสวัสดิการและการดึงดูดไม่ให้อาจารย์ลาออกหรือเปลี่ยนไปทำอาชีพอย่างอื่น

ในขณะเดียวกันเราก็มองว่า มันอะไรที่ได้มาง่ายๆ เป็นอะไรที่ได้มาโดย automatic โดยอัตโนมัติ เพราะสำหรับอาจารย์บางกลุ่ม บางประเภทแล้ว เป็นพวก นั่งๆนอนๆ ไม่ค่อยทำอะไรเลย จู่ๆก็ได้ค่าแรงขึ้น และก็ขึ้นทุกๆปีด้วยสิ ดังนั้นคนที่ยิ่งสอนนาน ก็ยิ่งได้ค่าแรงเยอะไปตามอายุราชการ ซึ่งอัตราการว่าจ้างที่ NSW มันไม่เป็นไปตามความสามารถและผลงานเท่าไหร่

อาจารย์บางคนทำงานแทบตาย ทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อนักเรียน แต่มันก็จะมีพวกกิ้งก่า จิ้งเหลน ตุ๊กแก กาฝากสังคมที่แฝงอยู่ในคราบ professional คราบของคนที่มีความรู้ แต่จริงๆแล้วขี้เกียจมาก สอนอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ ไม่มีการปรับเปลี่ยน ไม่มีการขวานขวายหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อจะนำเอาสิ่งที่ดีที่สุดมานำเสนอต่อนักเรียน 

อาจารย์ประเภทนี้เขาก็นั่งๆนอนๆไปวันๆ เขาก็ได้ค่าแรงขึ้น 2.5% เหมือนกัน ทุกๆวันที่ 1 มกราคม นึกๆแล้วมันก็หดหู่ใจนะ

เงินเดือนขึ้นก็ดีนะ เพราะทุกคนทำงานก็อยากได้ค่าแรงเยอะๆกันอยู่แล้ว แต่ถ้ารัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายให้การขึ้นเงินเดือนเป็นการขึ้นแบบ performance-based คือต้องมีผลงานหรืออาจารย์ต้องมีการเรียนเพิ่มเติม มีการ update ตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะการเรียนการสอนมันก็มีผลงานการวิจัยอะไรต่างๆออกมาอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นอาจารย์เองก็ต้องขวานขวายหาความรู้และ update ตัวเองอยู่ตลอดเวลา อาจารย์จะต้องไม่ขี้เกียจที่จะอ่าน

นอกเหนือจากการขึ้นค่าแรงทุกๆวันที่ 1 มกราคมแล้ว อาจารย์ทุกคนที่ NSW ก็จะมีการขึ้นค่าแรงอีกรอบคือวันที่ครบรอบอายุราชการ และแต่ละคนก็จะมีอายุการรับราชการที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นถ้าอาจารย์คนใหนเริ่มรับราชการวันที่ 1 มีนาคม ทุกๆวันที่ 1 มีนาคมของทุกปีก็จะมีปรับขึ้นเงินเดือนด้วย

ดังนั้นอาจารย์ที่  NSW ทุกๆคนจะมีการปรับเงินเดือน 2 ครั้งใน 1 ปี คือ:
  • วันที่ 1 มกราคม
  • วันครบรอบปีอายุราชการ
ซึ่งก็ถือว่าเป็นสวัสดิการที่ดี แต่ถ้าการปรับขึ้นเงินเดือนเหล่านี้ เป็นการปรับเดือนเงินที่ตั้งอยู่บนรากฐานของผลงานและการขวานขวายหาความรู้ของอาจารย์มันก็น่าจะดีกว่านี้นะ

เราไม่ได้ว่าการขึ้นเงินเดือนไม่ดีนะ ดีสิ เงินเดือนขึ้นมันต้องดี แต่มันต้องสามารถประเมินและวัดผลได้ว่า สาเหตุที่มาและที่ไปของการขึ้นเงินเดือนมันคืออะไร... ไม่ใช่นั่งๆ นอนๆไปทุกปี แล้วเงินเดือนก็ขึ้นตลอดเลย